10 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)
ฮอกไกโด ( Hokkaido ) ภูมิภาคที่มีความสวยงามและน่าท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยยังไม่ค่อยนิยมการเดินทางไปมากนัก สาเหตุหนึ่งเพราะค่าตั๋วที่แพงกว่าไปลงโตเกียวมาก หากพูดถึงฮอกไกโดสิ่งที่นึกถึงมากที่สุดก็คือหิมะขาวโพลนและเทศกาลหิมะ แต่จริงๆแล้วที่แห่งนี้มีที่เที่ยวเยอะมากๆ และค่าใช้จ่ายอื่นๆยังถูกกว่าโตเกียวอีกด้วย เผลอๆหักลบไปมากับค่าตั๋วเครื่องบิน จะถูกกว่าไปเที่ยวในโตเกียว วันนี้เราจะพาไปชม 10 ที่ เด็ดๆ ที่ต้องไปกันในภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)
“10 สถานที่ห้ามพลาดในภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)”
1.) ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area)
ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area) เดิมที่นี่คือท่าเรือขนถ่ายสินค้าจากเรือลำใหญ่สู่เรือลำเล็กค่ะ ในอดีตก็คึกคักมาก แต่ปัจจุบันมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย จึงไม่จำเป็นต้องใช้เรือลำเล็กคลองแห่งนี้ก็เลยเงียบงันไป และในเวลาต่อมาโกดังต่างๆ ก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร ตกเย็นก็มีการประดับโคมไฟก๊าซโบราณ บรรยากาศก็จะเป็นสีส้มๆ หน่อย ซึ่งก็ทำให้โรแมนติกมาก เป็นริมคลองที่ควรค่าแก่การไปเดินจริงๆ ค่ะ แถมที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลแสงไฟริมคลองในฤดูหนาวด้วยล่ะ
การเดินทาง จาก Otaru Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาทีจ้า
2.) ทุ่งดอกไม้ ฟูราโน่ (Furano Flower Field)
หากจะชมดอกไม้ต้องไม่พลาด ทุ่งดอกไม้ ฟูราโน่ (Furano Flower Field) ค่ะ เพราะนอกจากลาเวนเดอร์ ที่จะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงกรกฎาคม –สิงหาคมแล้ว ยังมีดอกไม้สายพันธ์อื่นๆ ให้เราชมเกือบจะตลอดทั้งปี เช่น ดอกป๊อปปี้ และดอกลูปิน ในเดือนมิถุนายน ดอกลิลลี่ ในเดือนกรกฎาคม ดอกทานตะวัน ดอกซัลเวีย และคอสมอส ในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน เป็นทุ่งดอกไม้ที่สวยงามละลานตา อย่าลืมมาเก็บภาพสวยๆ ที่นี่ โดยเฉพาะที่ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ซึ่งฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ เพิ่มความสวยงามเข้าไปอีกจ้า
การเดินทาง ใช้รถไฟ JR Furano Line รวมถึง Furano-Biei Norokko trains ลงที่ JR Lavender Batake Station (Lavender Farm Station) แล้วเดินต่ออีกนิดหน่อยจ้า
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : farm-tomita.co.jp
3.) ลานสกีฟูราโน่ (Furano Ski Area)
ลานสกีฟูราโน่ (Furano Ski Area) เป็นลานสกีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากค่ะ เพราะนอกจากที่นี่จะวิวสวยแล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น สโนว์บอร์ด การล่องแพหิมะ รถลุยหิมะ พาราเซล เหมาะแก่การมาเป็นครอบครัว หรือจะชวนทัวร์ยกแก๊งค์ก็ดีมากๆ ล่ะค่ะ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเคยใช้เป็นลานสกีในการแข่งขันระดับโลกมาแล้วด้วย ก็จะมีทั้งพื้นที่สำหรับมือสมัครเล่นอย่างเราๆ และพื้นที่สำหรับมือโปรค่ะ
การเดินทาง ลานสกีฟูราโน่ห่างจาก Furano Station 3 กิโลเมตร สามารถขับรถ หรือนั่งแท๊กซี่ไปได้ ใช้เวลา 10-15 นาที หรือจากสนามบินอาซาฮิกาว่าหรือซัปโปโร โดยสารรถบัสไปยังลานสกี หรือ Furano Station ได้ค่ะ
pic : japan-guide.com
4.) ย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ ( Noboribetsu Onsen )
ย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ ( Noboribetsu Onsen ) เรียกว่าเป็นเมืองสวรรค์ของการแช่น้ำร้อนก็คงจะไม่ผิดค่ะ เพราะที่นี่มีบ่อน้ำร้อนถึง 11 ชนิด แต่ละอย่างก็แตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำร้อนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นล่ะจ้า โรงแรมก็มีมากมาย ที่พักแบบเรียวกังใหญ่ๆ ก็เยอะแยะ ให้เลือกกันแบบตามใจผู้อยู่ ในโรงแรมก็จะมีออนเซนไว้ให้บริการเราด้วย แบบนี้ไม่ไปไม่ได้แล้วค๊า
การเดินทาง จาก JR Noboribetsu Station โดยสารรถบัสประจำทาง ประมาณ 15 นาทีค่ะ ส่วนการเดินทางภายในย่านนี้สามารถเดินได้โดยรอบเพราะเป็นย่านเล็กๆ
pic : selected-ryokan.com
5.) หุบเขานรกจิโงคุดานิ ( Jigokudani หรือ Hell Valley )
หุบเขานรกจิโงคุดานิ ( Jigokudani หรือ Hell Valley ) อย่าพลาดสถานที่แห่งนี้กันนะคะ โดยเฉพาะคอหนังแฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในโลเคชั่นในหนังค่ะ มาที่นี่ก็จะต้องเดินหน่อยๆ เพื่อขึ้นไปยังหุบเขาที่เต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อน และยังมีบ่อโคลนอีกด้วย กิจกรรมที่สนุกสนานก็คือการเดินไป แวะแช่เท้าที่บ่อน้ำพุร้อนกันไปนี่ล่ะค่ะ แถมยังได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามตลอดทางเดินจ้า
การเดินทาง เดินจากบ่อน้ำร้อน โนโบริเบทสึ ไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้วจ้า
6.) สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo)
สวนสัตว์แห่งนี้ มีชื่อเสียงมากๆ ค่ะ ตั้งอยู่กลางฮอกไกโด ซึ่งเราสามารถชมสัตว์ต่างๆ ได้แบบหลากหลายมุม แต่ที่ไฮไลท์โดดเด่น ก็เห็นจะเป็นที่อุโมงค์แก้วนี่ล่ะค่ะที่เจ้าเพนกวินจะพากันมาแหวกว่ายอวดโฉมให้เราดู และอีกจุดคือโดมแก้วขนาดเล็กที่โซนหมีขั้วโลก ที่สำคัญแนะนำให้มาในช่วงฤดูหนาวนะคะ เพราะเค้าจะปล่อยเจ้าเพนกวินออกมาเดินอวดโฉมให้เห็นกันแบบตัวเป็นๆ แค่นึกถึงท่าทางการเดินโยกย้ายของบรรดานกน้อยก็อมยิ้มแล้ว
เวลาเปิด-ปิด: ปลายเดือนเมษายน-กลางเดือนตุลาคม 9:30-17:15
กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน 9:30-16:30
กลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนเมษายน 10:30-15:30
วันปิดทำการ: วันที่ 30 ธันวาคม – 1 มกราคม
การเดินทาง จากสถานี Asahikawa Station โดยสารรถบัสประจำทางหมายเลข 41,42 หรือ 47 ไปลงที่ Asahiyama Zoo จาก Furano ใช้รถไฟ JR Furano Line ไปลงที่ Asahikawa จากนั้นขึ้นรสบัสประจำทางหมายเลข 41,42 หรือ 47 ไปลงที่ Asahiyama Zoo ค่ะ
7.) โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ ( Shiroi Koibito Park )
โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ ( Shiroi Koibito Park ) ที่นี่เป็นโรงงานผลิตช้อคโกแลตของท้องถิ่นค่ะ ที่ขึ้นชื่อคือ คุ้กกี้ Shiroi Koibio ( คุ้กกี้เนยสอดไส้ช้อคโกแลตขาว ) แค่ชื่อก็น้ำลายไหลแล้ว มาถึงฮอกไกโดแล้ว อย่าลืมของฝากขึ้นชื่อของที่นี่นะคะ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ของกินอีกเพียบให้เราเดินเลือกช้อปกันจนพุงกางเลยล่ะ มาแล้วก็อยู่ให้ถึงกลางคืนกันนะคะ ไฮไลท์อยู่ที่ตึกแห่งนี้เป็นสไตล์ยุโรป ตกค่ำเค้าจะเปิดไฟสว่างสไวไปทั่ว ทำให้บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ยุโรปยังไงหยั่งงั้นเลยค๊า โรแมนติกไปอีก ตวามพิเศษอีกอย่างของที่นี่คือเราจะได้รับชมกระบวนการผลิตขนมชื่อดังแบบชัดๆทุกขั้นตอนอีกด้วย
การเดินทาง จาก Odori Station ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน Tozai Subway Line ลงที่สถานี Miyanosawa Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาทีค่ะ
pic : shiroikoibitopark.jp
8.) พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
เมืองซัปโปโร เป็นแหล่งผลิตเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นยี่ห้อที่นิยมมากที่สุดค่ะ ฉะนั้นห้ามพลาดเลยทีเดียว ถัดจากพิพิธภัณฑ์ ก็จะเป็นสวนเบียร์ซัปโปโร คอเบียร์ต้องถูกใจแน่นอน ภายในมีอยู่ 2 ร้านด้วยกันค่ะ คือ Garden Grill และ Genghis Kan Hall บรรยากาศก็จะสบายๆ เหมาะแก่การดื่มเบียร์ และรับประทานบาร์บีคิวซึ่งทำจากเนื้อแกะ เป็นอาหารท้องถิ่นที่นิยมกันมากๆ เลยล่ะค่ะ
การเดินทาง จาก Odori Station หรือ หน้าห้างสรรพสินค้า Seibu ใกล้กับ Sapporo Station ก็ขึ้นรถบัส Loop 88 Factory Line bus มาได้เลยค่ะ
pic : .japan-guide.com
9.) ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku)
ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku) ที่นี่เค้าจะเรียกขานกันว่า “ป้อมดาว 5 แฉก” ค่ะ เพราะถ้าเรามองจากมุมสูง พื้นที่โดยรอบจะมี 5 แฉกเหมือนรูปดาว ปัจจุบันป้อมแห่งนี้ได้ถูกดัดแปลงเป็นสวนสาธารณะที่มีต้นซากุระกว่า 100 ต้นเชียวล่ะ และเป็นจุดที่ซากุระบานช้าที่สุดค่ะประมาณเดือนพฤษภาคม เพราะว่าฮอกไกโดเป็นเมืองที่อยู่ส่วนบน หน้าร้อนจึงมาถึงช้ากว่าที่อื่น แลนด์มาร์คของป้อมแห่งนี้คือ หอคอยโรเงียวกาคุ ซึ่งมีความสูงถึง 90 เมตร ทำให้เราสามารถมองวิวจากมุมสูง และเห็นพื้นที่ของป้อมอย่างชัดเจนค่ะ ใต้หอคอยก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกมากมายด้วย
การเดินทาง จาก Hakodate Station ขึ้นรถรางสาย 2 หรือ5 ไปลงที่ Goryokaku Koen Mae แล้วเดินประมาณ 10 นาทีค่ะ
pic : .japan-guide.com
10.) ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)
ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate) ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ติด 1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดค่ะ ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งเราสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้ทั้งกลางวันละกลางคืน โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ประมาณ 17:30 น. คนจะเยอะหน่อยเพราะเป็น Prime Time จ้า จากด้านล่างก็จะมีกระเช้าขึ้นมา ประมาณ 3 นาทีก็ถึงแล้ว ใครจะชมพระอาทิตย์ตกดินจากที่นี่ก็ต้องเผือเวลากันหน่อยล่ะ แต่ขึ้นมาแล้วรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน