Japan CitiesJapan Travelยามากาตะ (Yamagata)ยามาเดระ (Yamadera)เซ็นได (Sendai)

10 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดเมือง เซ็นได (Sendai) ยามางาตะ (Yamagata) ยามาเดระ (Yamadera

10 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดเมือง เซ็นได (Sendai) ยามางาตะ (Yamagata) ยามาเดระ (Yamadera)

        หากใครได้เดินทางไปยังเมืองเซนได (Sendai) ห้ามพลาดกับ 3 เมืองนี้ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ไม่ไกลกันมาก เพราะเราสามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบทะลุถึงกันได้ง่ายมากๆ แถมยังได้สัมผัสกับการท่องเที่ยวหลากหลายแนวทั้งแหล่งช็อปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวสมัยใหม่ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแบบสุดๆ พร้อมทั้งได้สัมผัสวิธีชีวิตของชนบทของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง หรือแม้แต่ผู้ที่ชื่นชอบตำนานเรื่องลึกลับห้ามพลาดกับเมืองยามาเดระ วันนี้เราพาไปชม 10 สถานที่เที่ยว บอกได้คำเดียวว่าไม่ควรพลาดเลยซักที่นะคะ

“10 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดเมือง เซนได (Sendai) ยามากาตะ (Yamagata) ยามาเดระ (Yamadera)”

Toptenhotel application รีวิวโรงแรม ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว

 


1.) ชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่น้ำตก Akiu Otaki Falls

 

 

 

 

 

        Akiu Great Falls ที่ Sendai เค้าได้ชื่อว่าเมืองแห่งต้นไม้ค่ะ โดยเฉพาะที่ น้ำตกอากิอุโอทากิ ติด 1 ใน 3 ของน้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงตั้ง 55 เมตรแหนะ รอบๆ น้ำตก ก็เต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ล และต้นโอจิ (แปะก๊วย) พอถึงฤดูที่ว่านี้เราก็จะได้เห็นเค้าแย่งกันเปลี่ยนเป็นสีเขียว สีแดง สีส้ม สีเหลือง คือแบบ อู้หูววว !! แน่นอนจ้า แถมในแถบนี้ยังมีน้ำพุร้อนที่ขึ้นชื่อ ไหนจะ สินค้าพื้นเมืองของเซนได ก็มีวางขายเยอะแยะ แบบนี้ห้ามพลาดเชียวค่ะ

 

 

 

การเดินทาง

– จากสถานีรถไฟเซ็นได สาย Senzan Line ออกทางประตูทิศตะวันตก ต่อด้วยรถบัส
– จากสถานีรถไฟอะยาชิ สาย Senzan Line ต่อด้วยรถบัสมาลงที่ป้าย Akiu Otaki แล้วเดินต่ออีก 500 เมตร

 

 


 

2.) ช้อปปิ้งที่ถนนช้อปปิ้ง Clis Road

 

 

 

มา Sendai รับรองขาช้อปไม่ผิดหวังจ้า เพราะที่นี่เรียกว่าเป็นถนนละลายทรัพย์แห่งญี่ปุ่น ซึ่งมีของขายหลากหลายรูปแบบ หลายเกรดมาก ตั้งแต่แบกะดิน ยันสินค้าแบรนด์หรู เตรียมตัวกระเป๋าฉีกกันได้เลยนะจ๊ะ

 

การเดินทาง

– ออกจากสถานี JR Sendai ด้าน West Exit แล้ว ให้ เดินฉีกขวาออกมา จนถึงตึก AER … ซอยเริ่มต้นจากฝั่งตรงข้ามเลยค๊า

 

 


 

3.) ปราสาทเซนได

 

 

 

          ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาค่ะ ในอดีตถูกทำลายซะย่อยยับไม่เหลือซากด้วยระเบิดปรมาณูที่ยิงลงมาพอดี แต่ ในปัจจุบันที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดจ้า เพราะมีไฮไลท์อย่างประตูโอเตมอน (Otemon Gate) ศาสเจ้าโกโคขุ (Gokoku) กำแพงหิน รวมถึงอนุสาวรีย์ท่านดาเตะ มะซะนุเนะ (เจ้าผู้ครองเมืองเซนได) บนหลังม้า และจุดนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากๆ เชียวล่ะ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ซึ่งจัดแสดงประวัติของปราสาทเซนได และมีร้านอาหารมากมายด้วย

 

 

การเดินทาง

-นั่งรถ Loople Sendai Bus จากสถานีรถไฟ Sendai ให้ลงป้าย Site of Sendai Castle ค่ะ

 


4.) สักการะเจ้าแม่กวนอิมที่ Jogi Nyorai (วัด Saihoji)

 

 

 

        ข่าวดีของคนโสดจ้า ใครอยากมีคู่มาขอพรกันที่วัดแห่งนี้กันได้เลยค๊า เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ ใครโสดก็มาขอพรให้ได้เจอเนื้อคู่ ใครไม่มีลูกก็มาขอพรให้มีลูกสมดังใจปรารถนาจ้า คุณแม่ตั้งครรภ์ก็มาขอพรให้คลอดง่ายพระคุ้มครองนะคะ ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ เจดีย์แห่งนี้ไม่ได้สร้างแบบทั่วไปแต่สร้างโดยทำเสาค้ำไว้เหนือชั้น 1 ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันความเสียหายจากแผ่นดินไหวนั่นเองค่ะ

 

การเดินทาง

(รถประจำทาง)
– ขึ้นรถสายไปโจกิ ที่ป้ายขึ้นรถหมายเลข 10 ของบัสเทอริมินอลทิศตะวันตกสถานีเซ็นได ลงที่ป้ายปลายทาง “โจกิ”
(รถไฟฟ้า JR)
– ลงที่สถานีอะยาชิ สายเซ็นซัน ขึ้นรถประจำทางสายไปโจกิ ที่ป้ายรถหน้าสถานีอะยาชิ ลงที่ป้ายปลายทาง “โจกิ”

 


5.) สวนทสึทสึจิงะโอคะ (Tsutsujigaoka Park)

 

 

 

 

       สวนนี้ตั้งอยู่กลางเมืองเซนไดค่ะ เป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดของเมืองเซนได ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้ผลิเราจะได้เห็นความอลังการดาวล้านดวงของซากุระสายพันธ์โซเมอิ โยชิโนะ(Somei Yoshino)มากกว่า 1,000 ต้น ซึ่งจะออกดอกสีชมพูอ่อนบานสะพรั่ง บนพื้นที่ 110,000 ตารางเมตร อะหืมมม !! ละลานตาไปหมดล่ะค๊า

 

 

การเดินทาง

สวนนี้ใกล้กับสถานีรถไฟทสึทสึจิงะโอคะ (Tsutsujigaoka Station) สาย Senseki และ สถานีรถไฟเซ็นได (Sendai Station) สาย Senseki ค่ะ มาถึงสถานี้แล้วก็เดินต่ออีกนิดหน่อยก็ถึงแล้วจ้า

 

 


 

6.) ฮากูโระซัง (Haguro-san)

 

https://www.instagram.com/p/CFH4bfkKniR/?utm_source=ig_web_copy_link

 

        เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บนยอดเขาค่ะ ที่นี่คือภูเขาของการเกิดใหม่ ใครไปใครมาก็ต้องมาไหว้เป็นอันดับแรก ซึ่งเราสามารถนั่งรถขึ้นไปได้อย่างสะดวก แต่ถ้าจะแอดเวนเจอร์หน่อยก็เดินเท้าชมบรรยากาศสองข้างทางค่ะ บันไดหิน 2,400 กว่าขั้นเองจ้า แต่ไม่ต้องตกใจไปเพราะระหว่างทางก็มีจุดแวะพัก จุดชมวิว และโรงน้ำชาด้วยล่ะ ไหนๆ มาแล้วก็ลองเดินดู

 

 

การเดินทาง

รถบัส Shonai Kotsu ให้บริการวิ่งไปกลับ 8 รอบ/วัน ระหว่าง Tsuruoka Station และ Haguro Center(Zuishinmon bus stop)

 

 


 

7.) Zao Onsen

 

 

 

 

       ตั้งอยู่บนเนินเขาของภูเขาไฟซาโอะ ในฤดูหนาวยังเป็นเมืองแห่งสกีรีสอร์ทด้วยนะคะ หลังฤดูกาลสกีแล้ว ส่วนใหญ่จะเลือกมาแช่น้ำพุร้อนที่นี่ เพราะเป็นแหล่งธรรมชาติที่มีกำมะถันสูงซึ่งจะช่วยบำรุงผิวด้วยล่ะ บรรยากาศก็เงียบ สงบ ร่มรื่น แถมห้องอาบน้ำยังมีให้เลือกมากมายหลายแบบทั้งในร่มและกลางแจ้งพร้อมบริการสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันจ้า

 

 

 

การเดินทาง

 

-โดยสารรถไฟและรถบัสผ่านยามากาตะ
นั่ง JR Yamagata Shinkansen ไปยัง Yamagata เปลี่ยนไปนั่งรถบัส เพื่อไปยัง Zao Onsen รถไฟสามารถใช้ตั๋ว JR Pass และ JR East Pass ได้
โดยสารรถไฟและรถบัสผ่านเซนได
นั่ง JR Tohoku Shinkansen ไปยัง Sendai เปลี่ยนไปนั่งรถบัสเพื่อไปยัง Zao Onsenรถไฟสามารถใช้ตั๋ว JR Pass และ JR East Pass ได้
จาก Sendai โดยสารรถไฟและรถบัส
นั่ง JR Senzan Line ไปยัง Yamagata เปลี่ยนไปนั่งรถบัสเพื่อไปยัง Zao Onsen รถไฟสามารถใช้ตั๋ว JR Pass และ JR East Pass ได้

 

 


 

8.) ลานสกี Zao Onsen

 

 

 

       เล่นสกีต้องที่ Zao Onsen ค๊า เพราะนอกจากการมาเล่นสกีแล้ว เรายังจะได้ชมความงดงามของ ปีศาจหิมะ ที่เกิดจากหิมะที่ตกหนักและถูกลมเย็นพัดกระหน่ำจนแช่แข็งต้นไม้กลายเป็นรูปร่างต่างๆ และเราสามารถชมความสวยงามของปีศาจหิมะแบบ Bird Eye View ด้วยกระเช้าและเรือกอนโดล่า ตกค่ำเค้าก็จะประดับไฟบนต้นไม้แช่แข็ง ต้องบอกว่า มันสวยมากคะคุณผู้ชม

 

 

 

การเดินทางจาก Sendai

 

– นั่ง JR Senzan Line ไปยัง Yamagata แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถบัสเพื่อไปยัง Zao Onsen รถไฟสามารถใช้ตั๋ว JR Pass และ JR East Pass ได้ค่ะ

 

 


 

9.) ล่องเรือที่ Mogami – kawa

 

 

 

        ลำน้ำโมงามิ เป็นแม่น้ำสายหลักของยามางาตะ ที่ไหลผ่านเมืองเชียวล่ะค่ะ ความสวยงามของที่นี่คือวิวสองข้างทางที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกสึสึจิสีเเดงเเละสีชมพู จะบานพร้อมซากุระทั่วทั้งภูเขา ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเปลี่ยนสี ในฤดูหนาว เขาทั้งลูกจะถูกปกคลุมด้วยหิมะจนขาวโพลนค่ะ ต้องมาดูให้เห็นกับตาเพราะว่ามันสวยงามเกินบรรยายเลยจริงๆ ค่ะคุณ

 

 

การเดินทาง

-จากสถานียามางาตะ นั่งรถไฟชินคันเซ็นมาลงที่สถานี ชินโจ สถานีปลายทางของยะมะงะตะชินคันเซ็น แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ JR สาย Rikuu West Line ลงที่สถานี JR Furukuchi ค่ะ

 

 


 

10.) วัดยามาเดระ (Yamadera Temple)

 

 

        ที่นี่เป็นจุดที่เราสามารถชมวิวเมืองทั้งเมืองได้แบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ตัววัดยามาเดระเองตั้งอยู่บนเนินเขาสูง และรอบๆ เชิงเขาก็มีวัดเล็กๆ มากมายแต่ละที่ก็เป็นจุดชมวิวที่เราจะได้เห็นแต่ละมุมแตกต่างกันไป จากข้างล่างถึงวัดด้านบนเราต้องเดินเท้าขึ้นไปบนบันไดหิน 1,000 ขั้น และจะผ่านหินมิดะโฮระ ขนาดใหญ่มีรูปร่างคล้ายพระพุทธเจ้า อันนี้เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เลยนะคะ วิวจากด้านบนสวยงามมากๆ บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดค่ะ

 

 

 

การเดินทาง

จากสถานีรถไฟ Yamadera Station เดินไปทางทิศเหนือประมาณ 5 นาที
ถ้าใช้รถไฟ JR Senzan Line ซึ่งเชื่อมต่อเมืองยามากาตะกับเซนได ก็ขึ้นจากจาก Yamagata Station มาลงที่ สถานีรถไฟ Yamadera ถ้ามาจาก Sendai Station มาลงที่ สถานีรถไฟ Yamadera เช่นกัน จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาทีค่ะ

10 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดเมือง เซ็นได (Sendai) ยามางาตะ (Yamagata) ยามาเดระ (Yamadera)



Booking.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *