“อาโอโมริ” ชื่อนี้อาจจะฟังดูไม่ค่อยคุ้นหู เพราะที่นี่คือเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของจังหวัดโทโฮคุ บนเกาะฮอนซูค่ะ ว๊าวๆ ความที่ตั้งบนเกาะนี่แหละมีอะไรให้น่าค้นหา และด้วยความที่เป็นเมืองเล็กๆ จึงอาจจะยังไม่โด่งดังเหมือนเมืออื่นๆ ของญี่ปุ่น แต่เชื่อเถอะค่ะว่าที่นี่มีอะไรให้คุณๆ ว๊าว!!!! อีกเพียบเลยล่ะ ดังนั้นอย่ารอช้าค่ะ ไปดูกันว่าถ้ามาที่นี่เราต้องปักหมุดที่ไหนบ้าง

หากใครกำลังมองหาโรงแรมดีๆในเมืองอาโอโมริ ติดตามอ่านได้ที่นี่

“11 อันดับโรงแรมในเมืองอาโอโมริ (Aomori) ประเทศญี่ปุ่น”

1.) ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)

         ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ปราสาทแห่งนี้ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของญี่ปุ่นในการชมดอกซากุระบานค่ะคุณ บรรยากาศสวนสวยสุด เพราะมีต้นซากุระถึง 2,600 ต้น สวนสวยแห่งนี้ควรค่าแก่การทิ้งตัวมากๆ ปลดปล่อยอารมณ์ทุกอย่างเหลือเพียงความโล่งเบาสบายตัวค่ะคุณ เพราะบรรยากาศธรรมชาติสวนโดยเฉพาะช่วงดอกซากุระบาน ยิ่งไม่ควรพลาดเลยนะคะ และที่สวยไม่แพ้กันก็คือช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่เรียกว่าสวยจนไม่อยากจากเลยล่ะค่ะ ถ้าได้มารับรองว่าคุณต้องหลงเสน่ห์ความงามแน่ๆ

การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Hirosaki ต่อรถ Dotemachi Loop Bus ไปลงที่ Shiyakusho-mae bus stop ใช้เวลา 15 นาทีค่ะ

Credit : japan-guide.com

2.) ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake)

         ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake) เป็นทะเลสาบที่กว้างใหญ่และมีความสวยงามมากๆ เลยล่ะค่ะ และยิ่งไปกว่านั้นคือที่นี่เป็นทะเลสาบที่เกิดจากกระประทุของภูเขาไฟ OMG!!! ทะเลสาบใหญ่เบอร์นี้คิดดูว่าตอนที่ภูเขาไฟประทุขึ้นมาจนกลายเป็นทะเลสาบจะรุนแรงขนาดไหน แต่ความรุนแรงก็กลายมาเป็นความสวยงามที่ยากเกินบรรยายในตอนนี้เลยล่ะค่ะ และยิ่งในช่วงฤดูใบไม่ร่วงจึงพร้อมใจกันเปลี่ยนสีรอการผลัดใบ ช่วงนี้ที่นี่จะสวยมากกกก และเป็นจุดชมวิวที่ Unseen มากๆ เลยล่ะค่ะ

การเดินทาง: จากสถานี Hachinohe ต่อรถบัส JR Bus Tohoku ที่ชานชาลา H 16 ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที ไปถึงเลย หรือจากสถานี Aomori นั่งรถบัส JR Bus Tohoku ที่ชานชาลา 11 ไปลงที่ทะเลสาบโทวาดะ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 15 นาทีค่ะ

Credit : japan-guide.com

3.) ตลาดปลาฟูรุคาวะ (Furukawa Fish Market)

          ตลาดปลาฟูรุคาวะ (Furukawa Fish Market) มาญี่ปุ่นยังไงก็ต้องไม่ลืมตลาดปลาค่ะ ไม่งั้นคือมาไม่ถึง สำหรับที่นี่เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล ผัก และของกิน ล้วนมีความสดมากกกกค่ะคุณ ตลอดสองข้างทางนี่คือแบบ… เกินคำว่าพุงกางเลยล่ะ โดยเฉพาะถ้ามาที่นี่ต้องชิมข้าวหน้าปลาดิบแบบสดๆ ซึ่งเราสามารถทำทานเองได้ไม่จำกัด โอ้ว!!! ความบุฟเฟต์ต่างๆก็มาค่ะงานนี้

การเดินทาง: จากสถานี Aomori เดินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 5 นาทีก็ได้ฟินกับของกินสดๆ แล้วจ้า

Credit : japan-guide.com

4.) ภูเขาโอโซเรซัง (Mount Osorezan)

          ภูเขาโอโซเรซัง (Mount Osorezan) ที่นี่เป็นภูเขาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟค่ะ ดังนั้นสิ่งที่เราจะเห็นก็คือ พื้นดีที่ดูแห้งแล้ง (นั่นแหละคลาสสิคมากๆ ) และกลิ่นกำมะถันรุนแรงหน่อยๆ และบ่อนี้สีแดงเหลืองที่เกิดจากการมีกำมะถันเจือปน บรรยากาศรอบๆ ปกคลุมไปด้วยหมอกควันตลอดเวลา จึงถูกตั้งสมญานามว่า เมืองแห่งนรก อาจจะฟังดูไม่ค่อนสุนทรีเท่าไหร่ แต่รับรองว่าสวยแปลกตาเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมกันเรื่อยๆ เลยล่ะค่ะ และที่สำคัญ ที่นี่ยัเป็น 1 ใน 3 ภูเขาที่เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดในญี่ปุ่น (ร่วมกับโคยะซังและฮิเอย์ซัง)

การเดินทาง: จากสถานี JR Shimokita ให้ต่อรถบัส Shimokita (มีรถ 4 เที่ยวต่อวัน) ไปถึงภูเขาโอโซเรซัง ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีนั้นค่ะ

Credit : japan-guide.com

5.) ศาลเจ้าคาบุชิมะ (Kabushima Shrine)

          ศาลเจ้าคาบุชิมะ (Kabushima) เป็นศาลเจ้าที่มีความสวยงามและเราสามารถชมวิวมุมสูงจากที่นี่ได้อีกแห่งหนึ่งค่ะ ด้วยลักษณะของศาลเจ้าเป็นเหมือนเกาะเล็กๆ แต่มีความติดกับแผ่นดินใหญ่จนสามารถเดินข้างไปได้อย่างง่ายดาย และความที่มีนกมาอาศัยอยู่มากมาย เค้าจึงได้ชื่อว่าเกาะนกนางนวลนั่นเองค่ะ สำหรับใครที่มาที่นี่อย่าลืมมากราบไหว้ขอพรกันนะคะ ซึ่งความมีชื่อเสียงของที่นี่คือการให้ความโชคดีเรื่องการทำมาค้าขายให้มีความเจริญรุ่งเรืองค่ะ อ่อ!!! และอย่าลืมพกหมวกพกร่มกันให้ดีเพราะจะมีอึของนกที่เจ้าตัวเค้าจะปล่อยลงมาได้ทุกเมื่อนะคะ

การเดินทาง: จากสถานี Same ของรถไฟสาย JR Hachinohe Line เดินไปประมาณ 15 นาทีค่ะ

Credit : en-aomori.com

6.) สวนแอปเปิ้ลฮิโรซากิ (Hirosaki Apple Park)

          สวนแอปเปิ้ลฮิโรซากิ (Hirosaki Apple Park) แห่งนี้เป็นสวนที่สวยงามและกว้างใหญ่ไพศาลมากค่ะคุณ และมีแอปเปิ้ลกว่าพันต้นแหนะ รวมทุกสายพันธุ ก็ 65 สายพันธ์เลยทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะมาในช่วงเดือน ส.ค. – พ.ย. เค้าจะมีแอปเปิ้ลให้ทานกันสดๆ แถมฟรีอีกต่างหากค่ะ และไฮไลท์ที่ห้ามพลาดอีกอย่างหนึ่งคือ เทศกาลชมดอกแอปเปิ้ล (Hirosaki Ringo Hana Festival) ที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการดาวล้านดวง ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปีค่ะ

การเดินทาง: จากสถานี Hirosaki ต่อรถบัส Konan Bus ไปลงที่ Tokiwazaka Bus Stop ใช้เวลา 20 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 7 นาทีเท่านั้นจ้า

Credit : japan-guide.com

7.) พิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านเนบูตะ (Nebuta Warasse)

          พิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านเนบูตะ (Nebuta Warasse)  มาที่นี่เราจะได้ชมประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นค่ะ เพราะเค้าจะมีการจัดแสดงเรื่องราวทุกอย่างของงานเทศกาลเนบูตะ หรือเทศกาลแห่โคมไฟ ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี ที่สำคัญความ Unseen คือ ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีการจัดแสดงโคมไฟของจริงที่ใช้แห่ในเทศกาล และมีการสาธิตวิธีประดิษฐ์โคมไฟที่ต้องใช้ช่างฝีมือและความชำนาญมากๆ ในการประดิษฐ์ค่ะ เรียกว่าหาชมได้ยากแล้ว คุณๆ ไม่ควรพลาดนะคะ

การเดินทาง: จากสถานี Aomori ประมาณ 3 นาทีค่ะ

Credit : japan-guide.com

8.) ภูเขาฮักโกดะ (Mount Hakkoda)

         ภูเขาฮักโกดะ (Mount Hakkoda) ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake) ค่ะ ความสวยงามของที่นี่คือความหลากสีของใบไม่ที่ปกคลุมกลุ่มยอดภูเขาไฟแห่งนี้ล่ะค่ะคุณ ที่สำคัญคือที่นี่คือ 1 ใน 100 ภูเขาที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ถ้าจะมาที่นี่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเหมาะเจาะมากๆ ค่ะ เพราะภูเขาทั้งลูกจะกลายเป็นสีส้มจากใบไม้เปลี่ยนสีที่รอกาลผลัดใบ และใครที่ชอบการเดินป่า กิจกรรมแอดเวนเจอร์ห้ามพลาดนะคะ

การเดินทาง: จากสถานี Aomori ต่อรถบัส JR Bus Tohoku ไปลงสถานีโรปเวย์ Mount Hakkoda ใช้เวลาประมาณ 75 นาทีเท่านั้นค่ะ

Credit : japan-guide.com

9.) ศูนย์ศิลปะโทวาดะ (Towada Art Center)

          ศูนย์ศิลปะโทวาดะ (Towada Art Center)สำหรับสายอาร์ทไม่ควรพลาดงานศิลปะค่ะ ที่นี่เค้าจะมีการจัดแสดงผลงานศิลปะโดย 33 ศิลปินจากทั่วโลก และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเราจะได้ชมสถาปัตยกรรมของอาคารต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์อีกด้วยล่ะค๊า แม้ที่นี่จะมีหลายอาคารก็ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนค่ะ เพราะเค้ามีทางเชื่อมที่สามารถเดินทะลุถึงกันได้หมดเลยล่ะค่ะคุณ

การเดินทาง: จากสถานี Hachinohe จะมีรถบัส JR ที่รับส่งโดยให้ไปลงที่ป้าย Towada Art Center ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเท่านั้นค่ะ

Credit : japan-guide.com

10.) ลำธารโออิราเซะ (Oirase Stream)

          ลำธารโออิราเซะ (Oirase Stream) อีกหนึ่งที่เที่ยวทางธรรมชาติที่เราไม่ควรพลาดเช่นกันค่ะ เพราะนอกจากเป็นป่าโปร่งแล้วความงามของลำธารที่มีระยะทางยาวกว่า 14 กิโลเมตร ซึ่งเป็นกระแสน้ำไหลลงมาจากภูเขายาเคยามะ (Yakeyama) ไหลลัดเลาะหุบเขาโออิราเซะ (Oirase Gorge) ยังมีความสวยงามมากๆอีกด้วย การเดินป่าเลียบลำธารแห่งนี้เป็นอะไรที่ชิวมาก ไม่ควรพลาดเลยนะคะ

การเดินทาง: จากสถานี Hachinohe ต่อรถบัส JR Bus Tohoku ไปลงที่ป้าย Yakeyama ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หรือ จากสถานี Shin-Aomori ต่อรถบัส JR Bus Tohoku ไปลงที่ป้าย Yakeyama ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ สะดวกทางไหนก็จัดไปทางนั้นเลยจ้า

Credit : japan-guide.com

Booking.com